วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การขุดล้อม

การล้อมต้นไม้สามวิธี
วิธีที่1 การขุดล้อม โดยขุดดินลอบโคลนต้นเเล้วค่อยๆตัดออกทีละด้าน เเละตั้งเเต่เริ่มขุดครั้งเเรกก็ต้องตัดเเต่งกิ่ง เเละคำยันต้นไว้ให้เรียบร้อย
วิธีที่2 การขุดล้อมเพื่อให้ใบไม้ร่วง เป็นการลดการคายนำใช้กับต้นไม้ขนาดกลางเเละขนาดเล็ก เช่นตะเเบก เสลาเป็นต้น โดยจะขุดรอบโครนต้นเเล้วจะใช้
วัสดุห่อหุ้มดินไว้
วิธ๊ที่3 การขุดล้อมเเละเคลื่อนย้ายนิยมใช้กับต้นไม้ใหญ่มียาง มีโอกาสตายน้อยมาก เช่น โพธิ์ ไทร ยางอินเดีย ลั่นทม ไผ่ ฯลฯ

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552



ปิดกระหม่อมทำหุ่นไม้ดัด
ลักษณะของไม้หุ่นที่มีรูปทรงเป็นลักษณะไม้หุ่นเดียว (ไม้วิชา) เมื่อนำมาปลูกและฟื้นตัวได้ดี มีกิ่งกระโดงแตกใหม่แล้วจะต้องทำการปิดกระหม่อม ลักษณะไม้ท่อนเดียวเมื่อเจริญเติบโตดีแล้วให้เลื่อยต้นตอ สูงจากพื้นดินพอเหมาะตามต้องการ ต่อมาจะเกิดกิ่งกระโดงแตกออกมาใต้บริเวณรอยตัด ถ้ากิ่งกระโดงแตกต่ำจากรอยตัดมากเกินไป ก็ให้ตัดหัวตอลดต่ำลง เมื่อกระโดงยาวได้ประมาณ 30 เซนติเมตร ก็ให้เริ่มทำการปิดกระหม่อมทำหุ่น โดยการค่อย ๆ กับหลักให้แน่น ปล่อยให้กิ่งกระโดงยาวออกไปเรื่อย ๆ แต่ต้องคอยริดยอดหรือให้กิ่งกระโดงโตเร็วขึ้น รอจนกว่ากิ่งกระโดงจะโตเชื่อมปิดกระหม่อมได้เรียบร้อยดีแล้ว ก็ให้ตัดกิ่งกระโดงออกเหลือไว้เท่าที่ต้องการเท่านั้น เพื่อใช้กิ่งกระโดงนี้เป็นหุ่นเลี้ยงกิ่งแยกต่อไป แต่ละหุ่นจะปล่อยให้แตกกิ่งแยกเท่าไรนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะทำไม้ตัดชนิดใดจากรูปแบบทั้ง 9 ชนิด ที่กล่าวไว้แล้วในตอนที่ 2
เทคนิคการตัดแต่งกิ่ง
การเตรียมต้นตอ เพื่อการปลูกเลี้ยงเป็นไม้ดัดไม่ว่าต้นตอที่ได้มานั้นจะมีรูปแบบเป็นไม้บรรจบป่าหรือไม้บรรจบหุ่น รูปทรงมักจะไม่งามตามความต้องการ คงต้องเลี้ยงและบังคับ ให้มีกิ่งก้านพุ่มใบตามรูปร่างรูปทรงที่ตัดเอาไว้ การดัดกิ่งก้านหรือบังคับให้แตกกิ่งก้านตรงจุดที่ต้องการ เป็นเรื่องที่ต้องทำเสมอ เทคนิคเหล่านี้จำเป็นต้องศึกษา ติดตามสังเกตจากผู้มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม แบบเรียนคงบอกผู้ปลูกเลี้ยงไม่ได้ว่าจะต้องดัดตรงไหนให้แตกกิ่งใหม่กี่กิ่ง คงเสนอแนะเทคนิคการดัดและเสริมกิ่ง เท่าที่ผู้ปลูกเลี้ยงนิยมทำกันเท่านั้น
การดัดโค้งงอ
เป็นการจัดกิ่งพุ่มใบให้ระยะห่างได้จังหวะช่องไฟที่เหมาะสม การดัดลักษณะนี้จะใช้ลวดพันลำต้นและกิ่งที่ต้องการ การพันลวดควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ 1. ขนาดของลวด เลือกให้มีขนาดเหมาะสมกับลำต้นหรือกิ่งที่จะพันเพราะถ้าใช้ลวดเล็กเกินไป จะบังคับให้กิ่งโค้งตามต้องการไม่ได้ หรือถ้าลวดมีขนาดใหญ่ก็จะแข็งทำให้พันลำบาก 2. การพัน พันวนไปตามต้นกิ่งในลักษณะ 45 องศา ทั้งระยะห่างพอประมาณอย่าให้หลวมหรือแน่นจนเกินไป 3. การดูแลหลังพันลวด หลังจากพันลวดเสร็จแล้วสามารถดัดได้ตามต้องการ การดัดควรทำอย่างเบามือ อย่าพยายามดัดหรือหักลำต้นจนเกินไปเพราะอาจทำให้กิ่งและลำต้นเสียหายได้ เมื่อดัดเรียบร้อยแล้ว ต้องปล่อยให้ต้นไม้อยู่ตัวสักระยะหนึ่ง ประมาณ 3-4 เดือน จึงเอาลวดออกเพื่อป้องกันการสปริงตัวกลับของกิ่ง ถ้าเห็นว่ากิ่งมีรอยถูกลวดมัด ให้รีบแก้ออกแล้วพันใหม่ทันที การดัดกิ่งให้โค้งงออีกรูปแบบหนึ่ง คือการใช้น้ำหนักถ่วงให้กิ่งโค้ง ห้อยงอลงเพราะแรงดึงหรือแรงถ่วง โดยใช้ก้อนหินหรือของหนัก ๆ ผูกเชือกห้อยไว้กับกิ่งที่ต้องการดัด จนเห็นว่ากิ่งอยู่ตัวดีจึงนำออก
การดัดฉาก
กรณีที่ต้องการกิ่งหักมุม หรือหักข้อศอก ให้ใช้มีดปาดส่วนของกิ่งด้านที่ต้องการหักมุมออก แล้วหักพับตามต้องการโดยใช้ลวดบังคับหรือใช้เชือกผูกยึดจากนั้นใช้พลาสติกพันทับรอยปาดที่หักพับของกิ่งเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าได้ จะทำให้รอยแผลสร้างเปลือกออกหุ้มโดยเร็วขึ้น
การบังคับให้แตกกิ่ง
บางครั้งจำเป็นต้องบังคับให้แตกกิ่งใหม่ตรงตามจุดที่ต้องการซึ่งอาจเป็นได้ทั้งกิ่งที่มีตาและตรงที่ไม่มีตาการบังคับให้แตกกิ่งตรงที่มีตาอยู่แล้ว ทำได้โดยการใช้พลาสติกพันลำต้นและกิ่งให้มิด เว้นไว้ตรงตาที่ต้องการให้แตกกิ่ง เมื่อตาที่เว้นไว้แตกกิ่งจะต้องรอให้กิ่งโตพอสมควร จึงเอาพลาสติกที่พันออกการบังคับให้แตกกิ่งตรงที่ไม่มีตา วิธีการทำได้โดยใช้สว่านเจาะทะลุ แล้วนำกิ่งยอดจากต้นอื่น มาตัดกิ่งแขนงเล็ก ๆ และรูดใบออกให้หมด นำกิ่งดังกล่าวสอดให้ทะลุรูเจาะนั้น แล้วผูกยึดกิ่งสอดนั้นให้แน่น รอให้กิ่งที่สอดนั้นโตขึ้นเนื้อเยื่อและท่อน้ำนำอาหารก็จะเชื่อมประสานติดกันแน่น จากนั้นจึงค่อยตัดโคนกิ่งที่สอดให้ชิดกับกิ่งหุ่น ซึ่งเมื่อนาน ๆ ไปก็จะดูเป็นกิ่งจากต้นหุ่นเดียวกัน
การทำช่อหรือพุ่มใบ
เมื่อมีการจัดหรือบังคับให้แตกกิ่งตรงตามจุดต้องการ สิ่งที่ต้องดูแลต่อไปก็คือช่อหรือพุ่มใบ ไม้ดัดนอกจากรูปทรงต้นกิ่งก้านแล้ว ช่อหรือพุ่มใบเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้ไม้ต้นนั้นดูงดงาม ดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็น การทำช่อหรือพุ่มใบทำได้โดยการตัดยอดของกิ่งนั้นออก ให้กิ่งนั้นแตกยอดและใบออกมา รอจนยอดนั้นมีใบเพสลาด (กิ่งอ่อนกิ่งแก่) จากนั้นก็ตัดยอดที่แตกออกมาใหม่นี้อีกครั้งในลักษณะเช่นนี้ติดต่อกันไป จนกระทั่งส่วนนั้นแตกยอดและใบมากขึ้นดูสวยงาม ก็ตัดแต่งให้ได้รูปทรงของช่อใบตามต้องการ การทำช่อหรือพุ่มใบ กิ่งหนึ่งจะแยกออกเป็นกี่ช่อที่พุ่มใบก็ได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบตามตำราและรูปทรงของไม้หุ่น แต่สิ่งที่ควรคำนึงคือ การจัดช่อใบให้ได้ระยะที่พอเหมาะกับสัดส่วนและสัมพันธ์กัน เช่น การที่จะทำให้มี 9 ช่อ ก็จัดวาง 2 ชั้นชั้นละ 4 ช่อ และวางไว้ที่ยอดอีก 1 ช่อ รวมเป็น 9 ช่อพอดี

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552



มรดกทางศิลปที่เก่าแก่อย่างหนึ่งของไทย ที่ปัจจุบันหาดูได้ค่อนข้างยาก และหาผู้สืบทอดได้ยากอีกด้วยก็คือ การเลี้ยงไม้ดัดแบบไทย ซึ่งเป็นงานอดิเรกของคนไทยมาตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา ดังที่ปรากฏอยู่ในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ซึ่งผู้เขียนได้เคยยกมากล่าวไว้ในบทที่ 1 แล้ว ประมาณกันว่า"ขุนแผน" ตัวเอกในเรื่องนี้ มีตัวตนจริงๆ อยู่ในสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ระหว่างปีพุทธศักราช 2034 ถึง 2072 หรือจุลศักราช 840 ถึง 891 ซึ่งถ้าคิดตามประสาของผู้เขียนก็หมายความว่าคนไทยเล่นไม้ดัดเป็นงานอดิเรกกันมานานกว่า 500 ปีแล้ว

ลักษณะ


ลักษณะรูปทรงของไม้หุ่น

ต้นไม้ที่นำมาทำเป็นไม้ดัดเราจะเรียกว่า "ไม้หุ่น" ลักษณะการได้มาของไม้หุ่นจะมาจาก 2 แหล่ง คือ
1. ได้จากต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าตามธรรมชาติ ซึ่งอาจจะออกไปหาขุดเองหรือหาซื้อจากผู้ที่ขุดมาขาย
2. ปลูกเลี้ยงขึ้นมาเอง
ไม่ว่าจะหาไม้มาได้ในลักษณะใดก็ตาม การดัดตกแต่งจะยุ่งยากหรือจะต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน ก็จะขึ้นอยู่กับรูปทรงของไม้หุ่นเป็นสำคัญโดยทั่ว ๆ ไปนักเลงไม้ดัดจำแนกรูปทรงไม้หุ่นไว้ 3 แบบ ด้วยกัน คือ
1. ไม้บรรจบป่า
2. ไม้บรรจบหุ่น
3. ไม้วิชา
ไม้บรรจบป่า จะเป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ รูปทรงกิ่งก้านคดเคี้ยวไปมา เนื่องจากถูกสัตว์เหยียบย่ำหรือเป็นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ใต้พุ่มไม้ใหญ่ชนิดอื่น ๆ ทรงพุ่ม แลดูแคระแกร็นลักษณะทรงต้นดีเข้าที่เกือบใช้ได้แล้วอาจขาดเพียง 2-3 กิ่งเท่านั้นไม้ลักษณะนี้จึงเหมาะสมต่อการนำมาดัดให้ได้รูปทรง เพียงเพิ่มกิ่ง เพิ่มช่อใบ เว้นช่องไฟของช่อใบให้รับหุ่นหรือทรงต้น ก็จะทำให้เป็นไม้ดัดที่ดูงานได้ โดยใช้เวลาอีกไม่มากนัก การเลือกไม้ลักษณะนี้มาทำเป็นไม้ดัด อาจใช้เวลาเพียง 2-3 ปี ก็เสร็จสมบูรณ์
ไม้บรรจบหุ่น เป็นไม้ที่มีลักษณะรูปทรงหุ่นใกล้เคียงกับรูปแบบไม้ดัดที่จะทำ เพียงนำมาทำการดัดแต่งอีกเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เริ่มทำกิ่งช่อต่อไปได้ไม้บรรจบหุ่นนี้เหมาะสำหรับนำมาดัดแต่งทำเป็นไม้ดัด ลักษณะไม้ตลก ไม้ขบวน ไม้เอนชายและไม้ญี่ปุ่นเท่านั้น
การเลือกไม้ลักษณะนี้มาทำเป็นไม้ดัด จะต้องใช้เวลานานอาจจะถึง 9 ปี จึงจะเสร็จสมบูรณ์
ไม้วิชา เป็นไม้ที่มีลักษณะทรงต้นเพียงท่อนเดียว จะนำมาทำเป็นรูปร่างอย่างไรไม่ได้เลย เป็นไม้หุ่นที่นำมาทำไม้ดัดยากที่สุด จะต้องนำมาเลี้ยงให้ต้นแตกกิ่งกระโดงใหม่แล้วจึงจะทำการปิดกระหม่อมหุ่น (การปิดกระหม่อม หมายถึง การที่ดัดกิ่งที่แตกใหม่มาทับรอยตัดของต้นต่อเดิม) เมื่อกิ่งกระโดงได้ขนาดและเชื่อมกับต้นตอได้ดีแล้ว ก็จะใช้กิ่งกระโดงนั้นเป็นหุ่นทำกิ่งช่อต่อไป ผู้ดัดจะต้องใช้ฝีมือ และมีความวิริยะอุตสาหะเป็นเลิศ จึงจะทำได้สำเร็จ การใช้ไม้ชนิดนี้มาทำไม้หุ่นต้องใช้เวลามากกว่าจะได้ไม้ดัดที่เสร็จสมบูรณ์อาจจะถึง 15-18 ปีก็ได้ ปีก็ได้ ไม้วิชานี้ถือว่าเป็นไม้ที่ใช้ทดสอบฝีมือผู้ดัดได้เป็นอย่างดี
การเตรียมพันธุ์ไม้ดัด

ในอดีตที่ผ่านมา ผู้ที่จะเลี้ยงไม้ดัดจะต้องไปเสาะหาไม้หุ่นจากป่าธรรมชาติซึ่งมีอยู่มากมาย การขุดก็ต้องค่อย ๆ ขุดล้อมโคนต้นให้มีดินติดมา ตัดกิ่งและรากที่ยาวเกินไปออก ใช้กระสอบหรือวัตถุอื่นปิดคลุมส่วนดินและรากเอาไว้ ในขณะที่เคลื่อนย้าย จะต้องระมัดระวังอย่าให้กระเทือนมาก
นำมาปลูกและใช้หลักปักยึดไว้ให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นเอียงหรือล้มจะต้องปลูกทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง รอจนต้นไม้ฟื้นตัว และแตกกิ่งก้านใหม่จึงจะค่อยเริ่มลงมือดัดตกแต่งตามต้องการ
ในปัจจุบันมีผู้ปลูกเลี้ยงไม้ดัดกันมากขึ้น จึงเกิดมีอาชีพขุดต้นตอขาย ผู้ที่อยู่ใกล้แหล่งธรรมชาติที่มีต้นตอขึ้นอยู่แล้วมากมาย จะเลือกขุดและนำมาพักเลี้ยงให้ฟื้นตัวดี เมื่อเริ่มแตกกิ่งก้านใหม่ จึงนำออกมาขายให้กับผู้ที่ต้องการปลูกเลี้ยงต่อไป
ในอนาคต คงจะต้องใช้วิธีปลูกเลี้ยงพันธุ์ไม้ขึ้นมาเอง เพราะพันธุ์ไม้ที่มีอยู่ตามธรรมชาตินับวันก็จะหายากและขาดแคลนมากขึ้นเรื่อย ๆ



ลักษณะของไม้ดัดไทยและบอนไซ
โดยทั่ว ๆ ไปถ้าเอ่ยถึงไม้ดัดแล้ว ก็จะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าบางท่านอาจยังมีความเข้าใจที่สับสนไปบ้างโดยที่แยกแยะไม่ได้ว่า รูปแบบไหนเป็นไม้ดัดไทยและรูปแบบไหนเป็นบอนไซ ซึ่งโดยแท้จริงแล้วไม้ดัดที่เป็นศิลปะประจำชาติ จะแตกต่างจากบอนไซของญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิง บอนไซของญี่ปุ่น เป็นการนำเอาต้นตอไม้ใหญ่หรือไม้ประดับที่เราปลูกเลี้ยงไว้มาดัดและจัดรูปทรงให้เหมือนไม้ใหญ่ตามธรรมชาติและปลูกเลี้ยงไว้ในกระถางแบน ไม้ดัดไทย เป็นการขุดเอาไม้ขนาดโตพอสมควรที่มีอยู่แล้วมาปลูก ให้มีชีวิตรอดแล้วเริ่มทำการตกแต่งกิ่งที่แตกขึ้นใหม่ ดัดให้เปลี่ยนสภาพรูปทรงต่างไปจากธรรมชาติดั้งเดิม โดยดัดรูปทรงให้เป็นไปตามแบบฉบับที่กำหนดไว้ หรือบางท่านก็จินตนาการขึ้นมาใหม่ นั่นก็ถือว่านอกแบบตำราตามใจรักใจชอบของบุคคลนั้น การปลูกเลี้ยงไม้ดัดในทวีปเอเซีย ดั้งเดิมนั้นมี 3 ประเทศเท่านั้น คือ ประเทศจีน ญี่ปุ่นและไทย ในประเทศจีนคงเหลือให้เห็นเพียงในภาพวาดตามแจกัน กระถางต้นไม้และฝาผนังเท่านั้น ส่วนประเทศญี่ปุ่นจะเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงไปทั้งโลกก็ว่าได้ สำหรับประเทศไทย การเลี้ยงไม้ดัดยังคงนิยมกันในวงแคบ ๆ ทั้งนี้เพราะการเลี้ยงดู การตกแต่งให้เป็นไปตามแบบดั้งเดิมนับว่ายุ่งยาก ต้องใช้ความมานะพยายามและใช้เวลา 4-5 ปีทีเดียว กว่าจะได้ไม้ดัดที่มีความงดงามตามศิลปะแบบไทย ๆ ฉะนั้น ไม้ดัดจึงเป็นการแสดงออกให้คนทั่วไปมองเห็นถึงศิลปะอันสวยสดงดงามของไทยเรา น่าที่เราและลูกหลานจะได้สืบทอดมรดกอันทรงคุณค่าให้อยู่ต่อไปนาน ๆ และทำให้มีชื่อเสียง เช่นเดียวกับบอนไซของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552




ไม้บอนไซ

เป็นลำต้นเดี่ยว มีทั้งเป็นลำต้นตรงหรือเอียงไปข้าง

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552



บอนไซ

บอนไซ



ไม้บอนไซ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

บอนไซ


การเลี้ยงไม้จากต่อ เมื่อได้ต่อไม้มาเลี้ยงไว้ในกระถางใบใหญ่ก่อนเพื่อจะได้ดินมากจะได้โตเร็วขึ้น

บอนไซ


บอนไซเกาะหิน การปลูกต้นไม้บนก้อนหินโดยให้รากเกาะเเละเเนบกับก้อนหิน

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไม้ดัด


ไม้ขบวน หรือไม้กระบวนลักษณะทรงต้นตรงหรือคดเล็กน้อย

ไม้กำมะลอ ลักษณะทรงต้นขึ้นไปส่วนยอดจะต้องวนลงมาลงล่าง

ไม้เอนชาย ลำต้นตรง เอนออกมาไปทางด้านข้างจะโผล่ขึ้นตามหน้าผา

ไม้ดัด ไม้เเคะ


ไม้หกเหียน ลักษณะทรงต้นมีการตกเเต่งตามตำรา
ทำกิ่งเเละช่อพุ่ม

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไม้ดัด ไม้แคระ


ไม้ญี่ปุ่น ลักษณะไม้ดัดไม้เเคระเหมือนกันเเละวิธีทำก็คลายกัน คือโคลนต้นใหญ

ไม้ดัดไม้เเคะ



ไม้เขนต่างจากไม้ดัดชนิดอื่นตรงที่จะให้ความสำคัญตรงต้น
โดยต้นจะมีปุ่มที่โคนเเละกิ่งตำสุด

ไม้ดัด ไม้เเคะ


ไ ม้ป่าข้อม ต่างจากไม้ดัดลักษณะทรงต้นตรงไปถึงยอดตรง
โคนมีปุ่มรอยดัด การจัดเเต่งกิ่งตัดให้วนเวียนรอบต้นขึ้นไป

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไม้ดัดไม้เเคะ



ไม้ตลกเป็นไม้ดัดที่ตั้งใจให้ผู้พบเห็นแปลกตาทำนองตลกขบขันมี 2 ลักษณะคือ ไม้ตลกหัว ไม้ตลกราก